20/2/59

อยากสวยหล่อ...ต้องผัก

ผัก..ขาดไม่ได้
" ไม่เคยชอบทานผักเลย..วงจรชีวิตเปลี่ยนเมื่อใดกัน " 
   พยายามคิดว่า ตกหลุมรักเค้าตั้งแต่เมื่อใรกัน ?"
าดว่าเมื่อสมัยเรียนอุดมศึกษา..แบบว่า เริ่มหัดทานของมึนเมา เข้าร้านลาบอีสาน..แซ็บกันหลายๆ
กับเพื่อนเป็นประจำ...แล้วท้ายสุดร้านปิด...แบบว่ายื้อไม่กลับ..ขอนั่งต่อ...ครัวปิด...ก็เลยเริ่มหัดทานผักแกล้มเหล้ามั๊ง !   

แก่แล้วนะ..จำอะไรได้ไม่แม่นยำเหมือนเดิม..เอาว่าเพิ่งได้ยินว่าแก่แล้วควรจะทานแต่ 
" ผัก กับ ปลา " ให้มาก  ทำฟาร์มผักเล็กๆ ก็แล้วกัน ( บ่อน้ำมีแล้วเดี๋ยวปลาก็มา ) , เอาเลย ! 
ยังไงๆ ลูกสมุน กระต่าย , เป็ด ,ห่าน , ปลา...เค้าจัดการที่เหลือให้...ไม่เสียของหรอก ! 

" คิดจะทำอะไร..ก็อย่าสร้างขยะ...ปัญหาให้คนรอบข้างก็แล้วกัน "
คติประจำใจ


คอกผักโดนใจ
" ใช้ไม้ที่เหลือจากงานก่อสร้างบ้านมาทำต่อ "



















































เทคนิคพิเศษ :
วิธีง่ายๆที่จะฝังเสาไม้ยูคาโดยไม่ต้องขุดหลุมเทปูน...เพื่อรักษาเนื้อไม้ไม่ให้ผุ ?

นื่องจากไม่มั่นใจว่าจะมีการเปลี่ยนแปลง  ย้ายแปลงผักนี้ในอนาคต  ก็เลยไม่อยากทำอะไรๆที่ถาวร
นัก   เกลียดตอนรื้อถอนแท่งปูนในอนาคต ...เลยใช้วิธีห่อถุงขยะดำที่โคนเสาแทน 
เพื่อๆไม่ให้โคนเสาโดนอากาศและน้ำ  จะยึดอายุเสาไม้จากความชิ้นและปลวกได้นานขึ้น...ลองทำดูแต่...ถ้าเสาไม้บ้านใครปลวกขึ้นเยอะ! เอาไปทำบุฟเฟต์ให้ไก่ไข่เลย...Happy  ถ้วนหน้า!

างทีการมีปลวกก็ไม่เลวนัก ถ้าไม่อยู่ใกล้บริเวณบ้านนะ...หน้าฝนได้ทั้ง แมงเม่า ( ชาวบ้านนิยมมาคั่วทาน...ลองแล้วละ!  คลุกเกลือนิดหน่อย เยี่ยม..โปรตีนล้วนๆ ) โดยเฉพาะแถวบ้านเค้าเรียก
แมงเม่ายักษ์  ตัวใหญ่กว่าแมงเม่ากรุงเทพฯเกือบสี่เท่า

ส่วนปลายฝนต้นหนาว...ถ้าไม่เอาไปคั่วทานหมด...เก็บไว้บ้าง...บริเวณแถวๆจอมปลวก ก็จะเกิด
เห็ดปลวก ภาษาชาวบ้าน  หรือ ( เห็ดโคน ) นั่นเอง..
.
ราคาแพงมาก และรสชาดดี...มีแค่ปีละครั้งนะ!

" คอกไก่ " ออแกนิค

ไก่ไข่..ไข่ออแกนิค?

บังเอิญมีตู้เหล็กเหลืออยู่ใบนึง...เอามาปรับรีไซเคิลใหม่  อ่านตำราฝรั่งบ้าง...ไทยบ้าง
สรุปว่าจะทำคอกเลี้ยงไก่ไข่สัก 20 ตัว...สำหรับไก่ไข่  เราคงมีไข่กินวันละ 15-20 ฟองเลยนะ! เยี่ยม !
ปรับแบบ...ทำเลย...หมู ๆ   อย่างว่าทำเสร็จแล้วไก่มันคงไม่มีปัญญา comment + complain 
เราเหมือนมนุษย์ช่างคิดหรอก


บบฝรั่งมืออาชีพคิดละเอียดจริง สวยงามแท้

อ่านไปศึกษาไป   พร้อมกับแบบไทยๆแบบพอเพียง  คงต้องปรับหลายจุด..สรุปสั้นๆได้ว่า

1. เมืองร้อน..ต้องระบายอากาศได้ดีมาก , ลมโกรก แต่ต้องกันฝน และ ลมพายุได้ด้วย
    (อากาศยิ่งร้อนเชื้อโรคยิ่งเยอะ )
2. ต้องมีพื้นที่ให้ ไก่วิ่งเล่น เข้าฟิตเนสทุกวัน
3. กรงต้องแข็งแรงและปลอดภัย พูดง่าย กัน งูเหลือม , ตะกวด , หมา , ช่างก่อสร้าง หรือใครก็ตามเข้าใกล้ (อาจต้องสแกนม่านตา) หวงมาก 555
4. ต้องดูแลทำความสะอาด และให้อาหารง่าย...ตลอดจนการเก็บไข่ด้วยนะ


เสร็จแล้ว ! ประมาณนี้...คอกไก่ไข่ ออแกนิค สไตล์ " รีไซเคิล "




หมายเหตุ : 
1. ทำได้ไม่เหมือนแนว " พอเพียง " ซะทีเดียว..เพราะคอกไก่ไม่ได้ลอยเหนือน้ำ และ ปล่อยให้ขี้ไก่ลงน้ำให้ป..ปลากิน  แต่เดี๋ยวเราจะเอาผ้าใบไว้ใต้กรงก็แล้วกัน   แล้วค่อยโกยลงน้ำให้ปลากินแทนนะ!
2. รอฝนแรก!  บ่อแห้งเชียวนะ..ความรู้สึกเหมือนเพลง " ข้าวคอยฝน " เลย










สุ่ม4 สุ่ม5...ทำสวนนะ

ต้นไม้ใหญ่...จัดลงเรียบร้อยตามวัตถุประสงค์
ที่เหลือก็รอฝนแรกแล้วละ

สุ่มคิด...กะว่าจะลองผิดลองถูกไปก่อนปีแรก...ดังนั้น...อย่าไปทำอะไรๆที่สิ้นเปลืองเลย
" ไม่เอาสวนสวยเนี๊ยบ..สไตล์คนกรุงนั้น..ต้องดูแลเอาใจใส่มาก  ปล่อยทิ้งปล่อยขว้างไม่ได้เลย "


สุ่มแบ่งโซนเลียนแบบฟาร์มพอเพียงของชาวบ้าน 

1. พืชผัก-ผลไม้ทุกชนิด  ต้องทานได้หมด  และมีประโยชน์ต่อทุกๆชีวิตที่นี่ด้วย ! และจะต้องปลูกสไตล์ออแกนิคด้วย

" ชอบแนวคิด..สร้าง Supermarket ไว้ให้ลูกหลาน "

ไม่รู้ไปจำมาจากไหน?  ใครพูด?  ใครเคยได้ยิน..ช่วยบอกด้วย...สุดยอด - คิดได้ไง ?

แล้วก็คำว่า  " รั้วกินได้ "  คิดคำได้สร้างสรรค์จริง...สุดยอดแรงบันดาลใจ...ขอบคุณมากตรับ

2. ไม่ต้องดูแลมาก   เอาแบบทนทานสุดๆ   ถ้าเค้าจะรกก็รกไป..ยิ่งรกยิ่งสวย   เป็นธรรมชาตินะ
งูเงี้ยวเขี้ยวขอ   ไม่กลัวหรอก  ทางใครทางมัน   ( พูดไปงั้นๆแหละ..ทำเป็น  cool..ที่จริง..ก็รู้ๆกันอยู่  )

3. หาซื้อ พ่อพันธุ์ แม่พันธุ์ ใกล้ๆแถวนี้แหละ    แสดงว่าเค้าปรับตัวได้แล้ว...โง่ๆอย่างเรา....ยังไงก็น่า
ปลูกขี้นแน่!...(หวังล้มๆ-แล้งๆ )

4. สำหรับไม้ผลยืนต้น...ค่อยๆ เลือกดีๆ..แล้วกันนะ  ใช้เวลาหน่อย !

บางทีวัชพืชก็สวยดีนะ...WHY NOT 7-11 ? Good Idea ! เทคนิคขับรถรอบๆบ้านรัศมึ  10 กิโล.  คิดซะว่าขับรถเที่ยว   ชอบต้นไหนตามริมถนน  ก็ขอเจ้าของที่เลยแต่อย่าลืมเอา จอบ , เสียม กับคนสวนไปด้วยหน่า ! ทำมาแล้วละ..คนต่างจังหวัดใจกว้างดั่งอ่างเก็บน้ำเลยแหละ

ผังแบบดิบๆสุกๆ ...ดูๆแล้วลงทุนพอไหว



พลังแห่งธรรมชาติ

พายุฤดูร้อน 20 มีนาคม 2557

ม่มีวี่แววใดๆมาก่อน  ท่ามกลางอากาศที่ร้อนสุดๆ  บ่อน้ำก็ยังไม่มีน้ำเลย...รอหน้าฝนนี้แหละ!  ยังดีที่ยังพอมีน้ำบาดาลใช้  ยังไงก็คงต้องประหยัดน้ำให้มากที่สุด  สงสารต้นไม้ที่เพิ่งเริ่มลง...ยังไม่ทันไรอาการเริ่มออกแล้ว

ช่วงหัวค่ำ..เริ่มรู้สึกชื้นๆ...แต่อบไปด้วยความร้อนเหมือนอยู่ในเซาว์น่า อยู่ดีดี...ลมก็แรง และแรงขึ้น ตามลำดับ...พายุฝนเข้า...ตามด้วยลูกเห็บ ขนาดเท่าลูกกอล์ฟอีกนับพัน...อยู่นานเกือบชั่วโมง
ช่างทุกคนหนีเข้าไต้ถุนบ้านกันหมดเกิดมาไม่เคยพบเคยเห็นมาก่อน














             เช้าตรู่...ออกสำรวจความเสียหาย...กระเบื้องมุ้งหลังคาหลายแผ่นหลุดลอยไปไกล  บางแผ่นไปไกลกว่า 400 เมตร  แต่ที่แปลกรัศมีที่เกิดพายุลูกเห็บเป็นช่วงแคบๆ รัศมีไม่เกินกิโล ถามชาวบ้านละแวกนั้น...บางคนไม่เจอพายุเลย...แปลกมาก  มันคงขึ้นกับอุณหภูมิที่พื้นผิวดิน และ อุณหภูมิโดยรอบที่มีความแตกต่างกันมาก เพราะแถวนี้ไม่มีต้นไมใหญ่เลย และดินก็แห้งมาก


เรื่องราวพายุฤดูร้อน

ายุฟ้าคะนองที่เกิดขึ้นในฤดูร้อนหรือเรียกว่าพายุฤดูร้อนจะเกิดขึ้นในช่วง เดือนเมษายนหรือในช่วงก่อนเริ่มต้นฤดูฝน  ขณะที่อุณหภูมิในภาคต่างๆเริ่มสูงขึ้น   เนื่องจากแกนของโลกเริ่มเอียงเข้าหาดวงอาทิตย์ และดวงอาทิตย์จะเคลื่อนมาอยู่ที่บริเวณเส้นศูนย์สูตร   ทำให้อากาศร้อนอบอ้าวและชื้นในภาคเหนือ  ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและตอนบนของภาคกลาง 

อากาศที่อยู่ใกล้ผิวพื้นจะมีอุณหภูมิสูง ประกอบกับลมที่พัดเข้าสู่ประเทศไทยเป็นลมใต้และลมตะวันออกเฉียงใต้ที่พัดมา จากอ่าวไทยและทะเลจีนใต้ ในระยะนี้ถ้ามีลมเหนือ (อากาศเย็น) พัดลงมาจากประเทศจีนคราวใดจะทำให้อากาศสองกระแสกระทบกัน ทำให้การหมุนเวียนของอากาศแปรปรวนขึ้นอย่างรวดเร็วและฉับพลัน 

เป็นเหตุให้เกิดพายุฝนฟ้าคะนองอย่างแรงและรวดเร็ว มีฟ้าแลบ (Lightning) ฟ้าร้อง (Thunder) และฟ้าผ่ารวมอยู่ด้วย นอกจากนี้มักจะมีลมกระโชกแรงและฝนตกหนักเกิดขึ้น บางครั้งยังมีลูกเห็บตกลงมาด้วย พายุฟ้าคะนองนี้เป็นพายุที่เกิดขึ้นในช่วงเวลาอันสั้นมีน้อยครั้งที่เกิด ขึ้นนานกว่า 2 ชั่วโมง

โดย ทั่วไป พายุฤดูร้อนนี้มักเกิดขึ้นในภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 

เนื่องจากการแผ่ลิ่มของความกดอากาศสูงจากประเทศจีนลงมาบริเวณภาคเหนือและภาค ตะวันออกเฉียงเหนือ ดังนั้นในขณะที่ประเทศไทยตอนบนมีอากาศร้อนและชื้น มีการยกตัวของมวลอากาศอยู่บ้างแล้ว แต่เมื่อมีอากาศเย็นจากบริเวณความกดอากาศสูงซึ่งมีลักษณะจมตัวลงและมี อุณหภูมิต่ำกว่า ทำให้มวลอากาศร้อนยกตัวขึ้นอย่างรวดเร็วและเมฆคิวมูโลนิมบัส (Cumulonimbus) ที่ก่อตัวขึ้นก็จะเจริญขึ้นเรื่อยๆ จนกระทั่งอุณหภูมิยอดเมฆต่ำกว่า -60 ถึง 80 องศาเซลเซียส จึงทำให้เกิดลูกเห็บตกได้