7/3/59

วันที่น้ำหลาก

รรมชาติ..ไม่มีแบบแผน

วามสมดุลย์  -  ถ้าร้อนเกิน เดี๋ยวฝนก็ตกเอง , ถ้าฝนตก ต้นไม้ก็งาม , ต้นไม้งาม ปีหน้าก็อิ่มสบาย
ถ้ามันเป็นไปตามอดีตก็คงดี   พอคาดการณ์ได้บ้าง   เดี๋ยวนี้ไม่มีฤดูกาลแน่นอนแล้วละ

มันอยู่ในสภาะที่โลกกำลังปรับสมดุลย์...เค้าคงจะต้อง  ปรับแกน  แรงเหวี่ยง  การหมุน  อุณหภูมิ
สักพักใหญ่ๆจนกว่าน้ำแข็งขั้วโลกจะหยุดละลาย  และ  เฉลี่ยน้ำหนักน้ำที่ท่วมทั่วถึงกันทั้งโลกก่อน...
จึงจะปรับสมดุลย์ได้มั๊ง ?

ข้าใกล้หน้าหนาวไปทุกที..ปลายตุลาแล้วนะฝนก็หยุดไปพักนึงแล้ว..กุ้งก็เพิ่งปล่อยไปสักอาทิตย์เอง
วันนี้ผ่านเที่ยงไป ไม่มีแดดฝนตั้งเค้า และ สุดท้าย ฝนก็เทลงมาอย่างไม่คาดคิด


ปล่อย..น้องกุ้ง

วัดไผ่โรงวัว : นัดรับกุ้งก้ามกราม

นัดเรียบร้อย  แผนที่พร้อม..ทางเข้าวัดคือจุดหมาย  ลุงบอกจากถนนใหญ่เกือบ3กิโลถึงแน่
ขับไปเรื่อยสุดทางประมาณได้สัก15โล..แม้แต่ระบบนำทางยังงง..มันเป็นทางเข้าสวน ถนนน้อยใหญ่..สายไป 2 ชั่วโมงกว่าแล้ว  ไม่อยากสายมากเพราะไม่อยากถึง " บ้านไร่พอเพียง " ดึกเพราะต้องทำพิธีปล่อยกุ้งด้วย..เดี๋ยวมืดซะก่อน !

คุยไปคุยมากับลุง..เค้าคงปลงเราเหมือนกัน  แบบว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ( รู้แต่รสชาดไง! ) ไม่รู้วิธีเลี้ยง , อาหารกุ้ง , วิธีอนุบาลกุ้งเลย..กะว่าจะเริ่มอ่านเย็นนี้แหละ...เค้าคงสงสารกลัวเราเลี้ยงไปก็ตายเปล่า...ก็


ทฤษฎี CO-CULTURE

บนน้ำ-กลางน้ำ-ใต้น้ำ 3 in 1..ในบ่อเดียว


ะบบ Co-culture นี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ของการเลี้ยงสัตว์น้ำ 3 ชนิดร่วมกัน ทั้งปลาทับทิม กุ้งก้ามกราม และกุ้งขาว 
การเลี้ยงปลาและกุ้งร่วมกันนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ จากการส่งเสริมซึ่งกันและกันของปลาในกระชังที่ต้องมีการตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้น ส่งผลให้กุ้งซึ่งอาศัยอยู่ใต้บ่อก็สามารถเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น 

การเลี้ยงปลาทับทิมในกระชังในบ่อควบคู่กับการเลี้ยงกุ้งขาวและกุ้งกุลาดำในบ่อเดียวกัน ด้วยระบบ Co-culture ช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตที่หลากหลาย มีรายได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ  ที่สำคัญยังเป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การเลี้ยงระบบนี้ ถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด เนื่องจากในการเลี้ยงปลา