7/3/59

ทฤษฎี CO-CULTURE

บนน้ำ-กลางน้ำ-ใต้น้ำ 3 in 1..ในบ่อเดียว


ะบบ Co-culture นี้เป็นเทคโนโลยีใหม่ของการเลี้ยงสัตว์น้ำ 3 ชนิดร่วมกัน ทั้งปลาทับทิม กุ้งก้ามกราม และกุ้งขาว 
การเลี้ยงปลาและกุ้งร่วมกันนี้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้ได้ผลผลิตเป็นที่น่าพอใจ จากการส่งเสริมซึ่งกันและกันของปลาในกระชังที่ต้องมีการตีน้ำเพื่อเพิ่มออกซิเจนทำให้คุณภาพน้ำดีขึ้น ส่งผลให้กุ้งซึ่งอาศัยอยู่ใต้บ่อก็สามารถเจริญเติบโตได้ดียิ่งขึ้น 

การเลี้ยงปลาทับทิมในกระชังในบ่อควบคู่กับการเลี้ยงกุ้งขาวและกุ้งกุลาดำในบ่อเดียวกัน ด้วยระบบ Co-culture ช่วยให้เกษตรกรมีผลผลิตที่หลากหลาย มีรายได้เพิ่มขึ้น ผู้บริโภคได้รับผลิตภัณฑ์ที่ดีมีคุณภาพ  ที่สำคัญยังเป็นเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมอีกด้วย

การเลี้ยงระบบนี้ ถือเป็นการใช้ทรัพยากรธรรมชาติได้อย่างคุ้มค่ามากที่สุด เนื่องจากในการเลี้ยงปลา




ทับทิมในกระชังแขวนในบ่อนั้นจะเหลือพื้นที่บริเวณพื้นบ่อสำหรับเลี้ยงสัตว์น้ำอื่นๆ เมื่อเลี้ยงกุ้งร่วมด้วยก็เท่ากับได้ใช้ประโยชน์จากพื้นที่เลี้ยงอย่างเต็มที่ และยิ่งเมื่อนำเทคโนโลยีการเลี้ยงที่เป็นมิตรต่อสิ่ง
แวดล้อม ด้วยการเลี้ยงแบบโปรไบโอติกฟาร์มมิ่ง มาใช้ควบคู่กันด้วยแล้ว ก็ยิ่งทำให้การเลี้ยงสำเร็จยิ่งขึ้น เพราะการใช้จุลินทรีย์ที่เป็นมิตรต่อกุ้งจะช่วยทำให้น้ำที่เลี้ยงมีคุณภาพ ช่วยให้ปลาที่เลี้ยงมีสุขภาพแข็งแรง กุ้งที่เลี้ยงก็โตดี สัตว์น้ำที่ผลิตได้จากเทคโนโลยีนี้ จึงเป็นผลิตภัณฑ์ที่เหมาะสมต่อการบริโภค เพราะจะทำให้ได้ปลาที่มีลักษณะเนื้อแน่น ไม่มีกลิ่นคาว ส่วนกุ้งที่ได้ก็จะมีตัวโตรสชาติหวานอร่อย ที่สำคัญยังปราศจากสารตกค้างและเชื้อปนเปื้อน ตรงกับความต้องการของผู้บริโภคที่รักสุขภาพอย่างแท้จริง

สนใจอ่านต่อที่นี่ได้

http://www.cpthailand.com/%E0%B8%A3%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%84%E0%B8%AD%E0%B8%A5%E0%B8%A1%E0%B8%99/tabid/129/articleType/ArticleView/articleId/1245/-Co-culture-.aspx

กุ้งก้ามกราม
กุ้งขาว
ปลาทับทิม
 ค่อ่านดูก็เริ่มตื้นเต้นอีกแหละ..บังเอิญอาทิตย์ก่อนระหว่างเดินทางกลับกรุงเทพฯแวะกินกุ้งแถววังน้อยไง..แล้วก็สั่งกุ้งก้ามกรามที่ปกติไม่ค่อยทานหรอก ( มันเยอะ ) แต่สั่งให้เด็กทานกัน..แปลกใจกับราคากุ้งก้ามกรามมาก รู้สึกว่าโลละ 1500-2000 บาท ( ประมาณนี้ )..ขนาดมาถึงอยุธยาแล้วเนี่ย !

ก็เลยกลับบ้าน..มาค้นคว้า..อ่านๆๆๆ...เรื่องการเลี้ยงกุ้งก้ามกราม  ดูสิว่าถ้าจะลอง..จะพอไหวไหม?
สุดท้ายมาหยุดที่บทความนี้

" การเลี้ยงสัตว์น้ำแบบ Co culture " ( จะเป็นชาวประมงอีก..ไอ้เจ้าไก่ , ห่าน , กระต่าย ยังไม่รู้จะรอดเลยไหมเนี่ย..เปิดโปรเจคใหม่อีกแหละ! )

สรุป...เอาแบบว่าคล้ายๆลองดุูก่อนก็แล้วกัน  เอาเทคนิคที่อ่านมายำรวมๆกันดีกว่า
สิ่งที่ต้องการ  - 1กระชังปลา  2ปลาทับทิม 3ลูกกุ้งก้ามกราม 4ลูกกุ้งขาว
ปัญหา - ขาดออกซิเจน เพราะบ่อเราเป็นบ่อปิด ทำยังไงดี ?

วิธีแรก  คือซื้อเครื่องตีออกซิเจนในน้ำ ( ไม่ได้อีกเพราะกินไฟ "บ้านไร่พอเพียง" นี้ขอไฟฟ้าน้อยไปหน่อย  ประเมินชีวิตผิดพลาด ( พลาดไปแล้ว! )
วิธีที่สอง  คือทำบ่อพักน้ำให้แดดส่องเพื่อเพิ่มออกซิเจนให้น้ำบาดาล  น่าจะถูกและประหยัดกว่า  และช่วยปรับอุณหภูมิในน้ำได้ด้วย ( หน้าหนาวเราก็ปล่อยน้ำเข้าตอนกลางวัน , หน้าร้อนก็ปล่อยน้ำเข้ากลางคืน..
WOW! คิดได้ไงเนี้ย++ ) ไหนๆแล้ว ก็ทำเป็นน้ำตกไปเลย..ได้บรรยากาศอีกต่างหาก ++


กระชังปลาชาวบ้านสไตล์ดูธรรมชาติดี  ( ทำชั่วคราวก่อน..ลองดู )
น้ำตกเพิ่มออกซิเจนลงบ่อ,ปรับอุณหภูมิน้ำตามฤดู และแรงน้ำทำให้กระชังกระเพื่อมเลียนแบบกระแสน้ำน้ำจริง
กระชังเลี้ยงปลาทับทิม ด้านข้างกระชังแขวนตะกร้าเลี้ยงกุ้งก้ามกราม หิวเมื่อไรก็ตั้งเตารอ?
แทงค์เก็บน้ำบาดาล ปล่อยน้ำลงบ่อด้วยแรงโน้มถ่วงโลก
น้ำใหม่ลงบ่อ-น้ำเก่าในบ่อระบายออก-นำไปรดน้ำต้นไม้

ที่เหลือก็รอ..วัตถุดิบ  ปลา , กุ้ง ,  เตา . ตะแกรงย่าง....ฝันหวาน



ไม่มีความคิดเห็น: