5/3/59

"ตัวกู..ของกู"

วามหมายที่ต้องคิด..

คำสอนของท่าน " พระพุทธทาส "  ช่างกระฉับ  จับใจ หนักแน่น  เข้าเป้า ?

เรามาทำอะไรตรงนี้...ที่นี่...หลังจากปลีกวิเวกมาสักพัก (ไม่ได้เข้าวัด++อย่าเข้าใจผิด..)
" เราก็แค่คนโง่บนเนินเขา ณ.ตอนนี้ "

ช่วงแรกที่มาอยู่..ไปๆมาๆ..ทำงานหาเลี้ยงชีพทั้งตัวเองและกระต่าย...( ลงไปเยอะ ) ต้องหาเงินเลี้ยงชีพด้วยแหละ  อีกสักพักแก่มากคงหมดแรงล่าแล้วเหมือนกัน.." มีงานก็ทำไป...มีไร่ไว้ก็ไม่เสียหาย "
เพราะมันคืออนาคต.." ถ้าจะรอเกษียณแล้วค่อยทำ  ตอนนั้นคงหมดไฟหมดแรงแล้วละ "

ริ่มชินกับความเงียบ , ความสงบ และ ได้คุยกับตัวเองทุกค่ำคืน..ได้ไล่เรียงความคิด
เหมือนรีวายเทปในหัวจากอดีตมาจนถึงปัจจุบัน  ( เท่าที่พอจำได้ ) ทำความเข้าใจและทบทวนทุกสิ่งที่ผ่านมาในชีวิต  จึงเริ่มเข้าใจและรู้จัก " ตัวกู..ของกู" มากขึ้นและมากขึ้นเรื่อยๆ

มื่อไร กลับกรุงเทพฯ..สังสรรค์..งานเลี้ยงรุ่น , งานแต่ง , งานศพ , งานบวช , งานขึ้นบ้านใหม่..ฯลฯ
เริ่มปรับตัวเข้ากับสังคมเมืองลำบากขึ้นทุกวัน

ทั้งรถติด . การแต่งตัว , การสนทนา  อะไรต่อมิอะไร ? มันรู้สึกแปลกๆไปหมด..ทำตัวไม่ถูก...อยู่ได้สักพัก 2-3 วันก็ต้องกลับมาที่นี่อีกแล้ว !
( คำเตือน : อยู่คนเดียวนานเกินไปมักจะขาดทักษะทางสังคมด้วยนะ )

มันชักจะไม่ใช่ " ตัวกู..ของกู"แล้วละ 
ตอนย้ายมาอยู่เมืองนี้   ลืมหัวโขนทิ้งไว้สักที่? 
สงสัยมันหล่นหายระหว่างทาง
ตอนขนของมาไร่นะ..โทษที!


เบื้องบนเป็นแผ่นฟ้ากว้าง  เบื้องล่างเป็นธารน้ำใส
ตัวฉันมีถังน้ำอยู่หนึ่งใบ..กับฝูงปลาที่รออยู่เรียงราย

สุดยอดเพลงโปรด " คาราบาว " เขียนได้ไง..สุดยอด " ได้อารมณ์จริงๆ
เชื่อไหม 3 เดือนที่ผ่านมา..ฟังเพลงนี้อยู่เพลงเดียวแหละ

ตื่นเช้ามาก็ให้อาหารปลา ไก่ ห่าน กระต่าย ไล่ไปเรื่อย...
ตกค่ำก็ดูดาว..ฟังเพลง..วาดรูป..เล่นดนตรี..เขียนหนังสือไปเรื่อย
คุยกับตัวเอง..จนเข้าใจ "ตัวกู..ของกู" จนได้แหละ  เพราะความเงียบ สงบ จริงๆ




พักฟังเพลงดีกว่า


เวอร์ชั่นเพลงโฟล์ค ดนตรีเรียบง่ายไม่ปรุงแต่งมาก
บทกวี..ชัดเจนขึ้นมาก..น่าฟังทีเดียว

ชีวิตที่ฉันละทิ้ง

ทุกข์คืออะไร..ไม่รู้จัก..แสร้งว่าสุข..ขลุกกับงาน..มันจริงแท้
แม้ตกเย็น  รถติด  (ก็ยัง)คิดแต่งาน
เย็นคลายเครียด..ดริงค์กับเพื่อน..มันสุขใจ

ไม่ย้อท้อ คนขยัน จะสำเร็จ
ตามที่มุ่ง...หวังไว้..สมปรารถนา

คิดกันไป แก้กันไป  ไร้เวลา
กลับบ้านไป..โดนจับ..สมน้ำหน้า ("ตัวกู..ของกู..จัดเองแหละ")
(น้าแอ็ด,น้าเล็ก  แต่ง..คงเพราะกว่านี้มากเนอะ)





ไม่มีความคิดเห็น: