ที่ดินแปลงแรกที่มีบ่อน้ำเป็นอันว่าซื้อขายไม่ได้ เพราะเป็นที่ดินแนวกันไฟภูเขา...อดไป
ไม่เป็นไร...ขยับมาแปลงติดกันก็แล้วกัน...ยังไงก็ได้วิวเดิม โชคดีเสียอีก ที่มารู้ทีหลังว่า
1. ที่ดินริมเขาเป็นที่ต่ำน้ำจะหลากขังท่วมช่วงหน้าฝน เค้าจึงขุดบ่อเก็บน้ำไว้ทำการเกษตรแต่ดั่งเดิม
2. เนื่องจากเป็นที่ดินแนวกันไฟ ห้ามซื้อขาย ก็คงไม่มีใครมาปลูกบ้านในแปลงนี้แน่นอน
ข้อเสีย :
เนื่องจากน้ำคือชีวิต เราต้องลงทุนขุดบ่อเก็บน้ำไว้อีกบ่อในที่แปลงใหม่นี้ ขนาดเท่าไรดี ?
เนื่องจากน้ำคือชีวิต เราต้องลงทุนขุดบ่อเก็บน้ำไว้อีกบ่อในที่แปลงใหม่นี้ ขนาดเท่าไรดี ?
ใหญ่ไว้ก่อนแล้วกัน...สักไร่นึงก็แล้วกัน ที่สำคัญคือต้องขุดให้ทันฝนนี้จะได้เก็บน้ำได้ทันทีแล้วคอยลุ้นว่าที่ดินแถวนี้เก็บน้ำได้ไหม? ซึมรั่วไหม? ถ้าโชคดีก็ไม่ต้องเสียเงินรอบสองเพื่อปูพลาสติครองบ่ออีก
เคล็ดลับชาวบ้าน :
ให้หาขี้วัวมาโรยพื้นสระทุกๆปี จะช่วยอุดรอยรั่วของบ่อได้และยังช่วยให้น้ำมีแหล่งอาหาร สำหรับระบบนิเวศน์ด้วย ( ฉลาดจริง ) และน้ำแถวนี้เวลาหน้าน้ำหลากจากเขาจะเป็นสีโอวัลตินแบบนี้สักพัก แต่ปลอดภัยเพราะ ไม่มีสารพิษจากโรงงานแน่นอน ส่วนใหญ่เป็นไร่ข้าวโพด และถ้าอยากให้น้ำใสเร็วขึ้นก็ให้ผสมน้ำหมักEMใส่บ่อเข้าไปเลย ทำให้มีจุลินทรีย์และเพิ่มO2ในน้ำอีกด้วย...น้ำใสสวยทันหน้าหนาวพอดี
สรุปผล:
บ่อสามารถเก็บน้ำได้ดี งบประมาณในการขุดบ่อลึก 3 เมตรกว่า ขนาดประมาณ 3 งาน
คิดเป็นเงินทั้งสิ้น 150,000 บาทถ้วน
การขุดบ่อบาดาล - ช่างแกละ ช่างท้องถิ่น...ผู้รู้จักพื้นที่แถบนี้ดีที่สุดก็รีบเข้ามาตรวจพื้นที่ และดำเนินการขุดเจาะอย่างมืออาชีพ ใช้เวลา 3 วัน , ขุดลึก 35 เมตร...งานสำเร็จใช้งบไปอีก 60,000 บาท
( เป็นค่า Submerge pump ซะสองหมื่นบาท ) เฮ้อ...นี่แหละ "น้ำคือชีวิต"
( เป็นค่า Submerge pump ซะสองหมื่นบาท ) เฮ้อ...นี่แหละ "น้ำคือชีวิต"
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น